อ. อุราภา วัฒนะโชติ

อาจารย์ อุราภา วัฒนะโชติ (อาจารย์ จอย) ชีวิตในวัยเด็กได้เคยเติบโตและเรียนหนังสือในประเทศญี่ปุ่นในชนบทที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติอันงดงาม ที่เซ็นได (Sendai) และ อิวากิ (Iwaki) กับคุณพ่อคุณแม่ซึ่งเป็นแพทย์ ได้คลุกคลีกับธรรมชาติ คนญี่ปุ่นรักธรรมชาติและชอบชีวิตที่เรียบง่ายไม่ปรุงแต่ง อาจารย์ จอย จึงซึมซับเรื่องราวดีๆและจำเรื่องราวในวัยเด็กที่แสนสนุกท่ามกลางหุบเขาลำธารป่าไม้กับเพื่อนๆได้เป็นอย่างดี

อาจารย์ จอย จบมัธยม จาก โรงเรียน สาธิตปทุมวัน จบปริญญาตรีด้านการบริหารการจัดการ จากมหาวิทยาลัยโอเรกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา ( University of Oregon, Oregon state , USA ) และ ระดับปริญญาโทบริหารการจัดการ ( MBA) จากมหาวิทยาลัยเอไอที (AIT)

หลังจากได้ทำงานในโรงพยาบาลเอกชนหลายปีได้หันมาสนใจในศาสตร์ของการบำบัดฟื้นฟูด้วยวิถีธรรมชาติ ได้เริ่มศึกษาศาสตร์เซไตย (Sei-Tai) จาก อาจารย์คาเซมารุ ยูคาวะ เบคอน ( Mrs. Kazemaru Yukawa Bacon) ที่ฮาวาย และ ที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นการจัดระเบียบร่างกายและ คิ (Qi) ให้สมดุลโดยหลักธรรมชาติ

ได้ศึกษาการทำสมาธิการเดินลมปราณในสายของเต๋าและสมาธิแบบเคลื่อนไหว ตลอดจนการดูแลและบำบัดร่างกายด้วยสมาธิ ฝึกวิชาไทเก็กและการนั่งสมาธิจากผู้สืบทอดจากสำนึกบู๊ตึงที่ประเทศจีน

ครั้งหนึ่งมีโอกาสได้ไปเรียนโยคะสมาธิชั้นสูงกับคุณพ่อคุณแม่ ที่สถาบันซิกฟา (Sigfa) ประเทศอินเดีย เกี่ยวกับการฟื้นฟูบำบัดร่างกายด้วยพลังจิตและรังสีออร่าในขณะนั่งสมาธิ และการใช้ กายแห่งพลังปราณ (Enerygy body) ได้พบกับมาสเตอร์อมาร์จิต สเวน (Amarjith Swain) กูรูผู้เชี่ยวชาญด้านราชาโยคะและการฟื้นฟูดวงตาแบบวิถีธรรมชาติ ฟื้นฟูอาการผิดปกติของสายตา เช่น สายตาสั้น สายตายาว สายตาเอียง สายตาขี้เกียจและ อื่นๆ

จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญคือ ตอนนั้นมีสายตาสั้นและเอียง ภายหลังการฟื้นฟูดวงตาแบบวิถีธรรมชาติเพียงไม่กี่ครั้ง ก็สามารถอ่านตัวเลขจากชาร์ตทดสอบ ( Snellen chart) ได้ครบทั้งหมด ( VA 20/20) สายตาเป็นปกติไม่ต้องพึ่งแว่นสายตาอีกต่อไป ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทำให้อาจารย์จอยและคุณแม่ที่เป็นจักษุแพทย์ มีความรู้สึกประทับใจอย่างยิ่ง เกิดความคิดว่า อยากให้คนไทยได้รู้จักและมีโอกาสได้รับการบำบัดด้วยศาสตร์การฟื้นฟูดวงตาด้วยวิถีธรรมชาติแบบนี้ดูบ้าง เพราะเป็นทางเลือกหนึ่งของการแก้ปัญหาสายตาที่ได้ผลจริง ไม่ใช้ยา สารเคมี และการผ่าตัด จึงไม่มีผลข้างเคียงต่อร่างกายเลย

จากประสบการณ์การเรียนรู้ต่างๆได้ถูกหลอมรวมเพื่อเข้าสู่การเรียนกับอาจารย์อมาร์จิต สเวน อย่างจริงจัง หลังจบหลักสูตรกับอาจารย์อมาร์จิต เสวน ที่ใช้เวลาต่อเนื่องหลายปี อ.จอยจึงได้เชิญอาจารย์เป็นที่ปรึกษาและช่วยเปิดศูนย์รักษ์ดวงตาวิถีธรรมชาติ โดยเป็นส่วนหนึ่งของ ดีเอส คลินิกใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า Natural Joy Vision ขึ้นเป็นครั้งแรกในเมืองไทยในปี พ.ศ.2553

ภารกิจหลักของศูนย์คือ การบำบัดฟื้นฟูสายตาด้วยวิถีธรรมชาติให้แก่ผู้มีปัญหาสายตาสั้น สายตายาว สายตาเอียง สายตาสูงวัย ตาขี้เกียจ ตาบอดสี โรคออฟฟิสซินโดรมที่สืบเนื่องมาจากปัญหาสายตา ที่ผ่านมามีผู้เข้ารับการอบรมและฝึกฟื้นฟูสายตามากกว่า 1,500 คน ทั้งคนไทย คนญี่ปุ่น พม่า สิงคโปร์ อินเดีย อเมริกา ฝรั่งเศส และชาติอื่นๆ ช่วงอายุตั้งแต่ 4 ขวบไปจนถึง 79 ปี ซึ่งผู้เข้ารับการฟื้นฟูมีความพึงพอใจต่อการมองเห็นที่ดีขึ้นและพึ่งพาแว่นน้อยลง และหลายคนไม่ต้องพึ่งพาแว่นอีกต่อไป นอกจากนี้ทางศูนย์ยังได้จัดสัมมนาอบรมให้แก่บุคลากรของโรงพยาบาลและผู้คนภายนอก เช่น โรงพยาบาลกรุงเทพหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โรงพยาบาลแม่ลาว จังหวัดเชียงราย โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส โรงพยาบาลตรัง จังหวัดตรัง โรงพยาบาลชุมแพ จังหวัดขอนแก่น และ ทำการวิจัยภายใต้ทุนการสนับสนุนของมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ให้แก่โรงเรียนองครักษ์ที่จังหวัดนครนายก กลุ่มโรงเรียนระดับมัธยมที่โรงเรียน นนทรีวิทยาโดยการสนับสนุนของมูลนิธิพิทักษ์ดวงตาประชาชน กับเจ้าหน้าที่ของกรมอนามัย สังกัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้ทางศูนย์เผยแพร่ความรู้การฟื้นฟูให้ชุมชนในระดับเบื้องต้น

The art and science of restoring vision naturally…without drugs, without surgery, and risk-free.

Natural Joy Vision คือ ศาสตร์และศิลป์ในการฟื้นฟูดวงตาด้วยวิถีธรรมชาติ ไม่ใช้สารเคมี ไม่มีการผ่าตัด ไม่เสี่ยง

สิ่งต่าง ๆ นอกเหนือจากที่เราคุ้นเคยหรือรู้มาก่อนสำหรับหลาย ๆ คนอาจนำไปสู่การตั้งข้อสงสัยมากมาย แต่ถ้าเราเปิดใจที่จะรู้ ที่จะศึกษา หรือลองปฏิบัติดูน่าจะดีกว่าปิดประตูในทันที

ลองเปิดใจ ลองปฏิบัติดูนะคะ เพราะแว่นสายตาไม่ใช่สิ่งจำเป็นสำหรับเราเสมอไป ประตูสู่การฟื้นฟูร่างกายด้วยวิถีธรรมชาติเปิดรอทุกท่านอยู่คะ